No Game No Life หรือ โนเกม โนไลฟ์ หนึ่งในอนิเมะแนวถูกส่งไปต่างโลกที่หลายคนอยากดู ด้วยภาพและเนื้อเรื่องที่แตกต่าง กระแสก็ดี แต่ทำไมภาค 2 ต้องรอนาน ? มาดูเหตุผลกันครับ
* สำหรับคนที่ได้ยินว่ามีภาคใหม่ ยังไม่มีภาค 2 นะครับ ส่วนหนึ่งเจอเฟคนิวส์ แชร์ต่อๆ กันมา
ความเป็นมา
เรื่องย่อ: สองพี่น้อง โซระ และ ชิโระ เกมเมอร์ตัวยงที่ขังตัวเองอยู่กับบ้าน จนได้รับการท้าทายจาก เท็ต เทพแห่งเกม ที่พาเขาไปยังโลกที่เกม คือ ทุกสิ่ง เผ่ามนุษย์กำลังแพ้เกมเผ่าอื่นอีก 16 เผ่าพันธุ์ ทั้งสองตั้งเป้าหมายที่จะชนะทุกเผ่าพันธุ์ และ สู้กับเทพเท็ต
ต้นฉบับ No Game No Life เป็นนิยายผลงานทั้งแต่งและวาดโดย Kamiya Yuu ตีพิมพ์ในนิตยสาร MF Bunko J (Media Factory) ตั้งแต่ปี 2012 จนถึงปี 2018 เคยวางจำหน่าย 10 เล่ม และเคยมีเล่มแยกในชื่อ No Game No Life Gaiden: Practical War Game 1 เล่ม
ลำดับการฉายภาคอนิเมะ
- No Game No Life Season 1 (TV, 2014) ผลิตโดย Madhouse จำนวน 12 ตอน (มี Picture Drama 6 ตอน) เนื้อหาซีซั่น 1 ตามนิยายเล่ม 1-3
- No Game No Life Zero (Movie, 2017) ผลิตโดย Madhouse มูฟวี่อิงตามนิยายเล่ม 6
ทีมงานหลักภาคแรกและมูฟวี่
- ผู้กำกับ: Ishizuka Atsuko (Sora yori mo Tooi Basho, Sakura-sou no Pet na Kanojo)
- บท: Hanada Jukki (Sora yori mo Tooi Basho, Steins;Gate, Love Live!)
- ดีไซน์: Oodate Kouji (ภาคทีวี) / Tasaki Satoshi (ภาคมูฟวี่)
เหตุผลที่อาจมีภาคต่อ
ศักยภาพทำต่อได้: แนวแฟนตาซี ต่างโลก มีตัวเลือกเยอะมาก แต่ก็ไม่ได้ทำแล้วปังทุกเรื่อง บางเรื่องดังเพราะเป็นแนวฮาเร็ม หรือสนุกในแบบตัวหนังสือ รวมถึงบางเรื่องฟอร์มดี แต่เจอทีมงาน-สตูดิโอไม่ได้คุณภาพ ก็งานออกมาแย่ ทำให้ต้นฉบับดูแย่ไปด้วย เมื่อพูดถึงแนวที่แตกต่าง ไม่ซ้ำใคร และภาคแรกทำออกมาดีแล้ว No Game No Life จะเป็นเรื่องหนึ่งที่ศักยภาพมากพอ
ต้นฉบับชะลอความเร็ว: เวอร์ชั่นไลท์โนเวลผ่านมาเกือบสิบปี ยังออกมาแค่ 10 เล่มและเล่มแยก 1 เล่ม หลังๆ ออกประมาณ 2 ปีต่อเล่ม อนิเมะยังตามได้สบาย ไม่มีปัญหาแบบหลายเรื่องที่ต้นฉบับไปไกลจนไม่มีเหตุผลที่ให้ทำต่อ (ถึงทำต่อ ส่วนใหญ่ก็ทำไม่จบ)
กระแสต่างประเทศดีมาก: ในภาคแรกปี 2014 ยังเป็นยุคที่วัดที่ยอดขายแผ่นเป็นหลัก ทำให้ No Game No Life อาจดูธรรมดาๆ เกินไปสำหรับการทำภาคต่อ ขนาดเรื่องอื่นที่ขายดีกว่า ยังไม่ได้ไปต่อเลย
เทียบยอดขายแผ่นบลูเรย์ดีวีดี เฉลี่ยจาก Oricon เรื่องที่น่าทำต่อบางเรื่อง
| ภาคแรก | ปี | ยอดขายเฉลี่ย | ภาคต่อ |
| Overlord | 2015 | 12,693 | มีมูฟวี่สรุป 2 ภาค และทำต่อเองถึงภาค 3 |
| Mahouka Koukou no Rettousei | 2015 | 12,242 | 8bit ได้ทำ Movie (2017) และภาค 2 |
| One Punch Man | 2014 | 10,522 | J.C.Staff ทำภาค 2 |
| No Game No Life | 2014 | 8,774 | ทำมูฟวี่ต่อเอง (2017) |
- Mahouka Koukou no Rettousei น่าจะตั้งใจภาคเดียวจบ แล้วมูฟวี่ต่อ แต่น่าจะไม่ว่างทำเพราะปีเดียวกับ No Game No Life มีภาคมูฟวี่พอดี ซึ่งถ้ามองถึงตัวสำนักพิมพ์แบบ Dengeki Bunko (ASCII Media Works) ที่โดนแฟนๆ ขอทำภาคต่อแทบทุกเรื่องบ่อยๆ (SAO, Index เป็นต้น) คงไม่แปลกที่มีต่อ
- One Punch Man น่าจะเปลี่ยนสตูดิโอ เพราะกำลังผลิตของ Madhouse ไม่สูงเท่าที่ควร
ยุคก่อน 2015 เกิน 5,000 แนวโน้มทำภาคต่อก็สูง แต่อาจเพราะการเปลี่ยนโครงสร้างของ Madhouse (ดูในหัวข้อต่อไป) ทำให้ตัดสินใจยากขึ้น
ในปี 2017 ช่วงสตรีมมิ่งกำลังมาแรง รวมถึงมูฟวี่ต่างประเทศ ทำให้กระแสต่างประเทศเริ่มมีผล แน่นอนว่า No Game No Life: Zero ได้รับกระแสที่ดีเรื่องหนึ่ง น่าจะทำให้ฝั่งโปรดักชั่นพิจารณาทำต่อมากขึ้น
Kadokawa กับแนวต่างโลก: บริษัทนี้ ยังคงดันแนวต่างโลกอย่างต่อเนื่อง ค่อนข้างเชื่อว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่สนใจ แต่ที่ไม่โผล่ใน Isekai Quartet น่าจะสองพี่น้องที่ฉลาด (และนีท) คงไม่เหมาะจะอยู่ในห้องเรียนของพวกสายกาว
เหตุผลที่อาจไม่มีต่อ
ปัญหาภายในของสตูดิโอ: เหตุผลเหมือน Overlord ที่หวังภาคต่อเริ่มยาก โครงสร้างของ Madhouse เปลี่ยนไปตั้งแต่ NTV ซื้อหุ้นไปเกือบหมดในช่วงปี 2014 ซึ่งหลายเรื่องเริ่มไม่สามารถทำต่อได้ เห็นผลชัดเจนขึ้นในปี 2015-2017 ทั้ง พี่น้องปริศนาโรงเรียนมหาเวทย์, One Punch Man และอีกหลายเรื่อง ทำเอาคนในสตูดิโอลาออกไปไม่น้อย
ถ้าสังเกต ทิศทางของงานเปลี่ยนไปค่อนข้างมากในช่วงหลังปี 2016 ถึงปัจจุบัน งานออกแนวกีฬาเรื่องยาว และใสๆ เยอะขึ้น ไม่ค่อยเน้นโหดเหมือนสมัยก่อน ถึงมีบ้างที่ลงในสถานีโทรทัศน์อื่นๆ แต่ก็น้อยจนเห็นได้ชัด
อาจต้องเปลี่ยนสตูดิโอ ซึ่งไม่ง่าย: เชื่อว่าหลายค่ายอยากทำเรื่องนี้ แต่ภาพที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้คล้ายหรือดีกว่าเวอร์ชั่น 2014 ทำให้การทำพิจารณาทำต่อมีผลกระทบไปด้วย แม้ทีมงานหลักจะไม่ได้ทำกับ Madhouse ก็ไม่ใช่ว่างานจะออกมาดีเสมอ
ปล่อยทิ้งก็ขายของได้: สำนักพิมพ์มีส่วนสำคัญในโปรเจกต์อนิเมะ ถ้าให้นับเรื่องของ MF Bunko J (Media Factory) ที่ทำอนิเมะไม่จบ ปล่อยให้ต้นฉบับทำต่อหรือจบไปก่อน ค่อนข้างเยอะอยู่ อย่าง ชมรมคนไร้เพื่อน, อาเรีย กระสุนแดงเดือด, Unbreakable Machine-Doll, Magical Warfare, Absolute Duo และอีกมากมาย
ถ้ากระแสดียังได้เห็นภาคต่ออย่าง Re:Zero kara Hajimaru Isekai Seikatsu แต่ก็นานมากกว่า และเรื่องอนิเมะกระแสดีแบบ Classroom of the Elite ก็ยังไม่แน่ (มองเรื่องกระแสต่างประเทศ ไม่ใช่ยอดขายแผ่นบลูเรย์-ดีวีดี)
ส่วนหนึ่งอาจเคยลองดัน Zero no Tsukaima มีหลายภาคก็ได้ ซึ่งยอดขายดรอปลงมาตามลำดับในภาคหลังๆ และไม่ค่อยเห็นเรื่องไหนดันหลายซีซั่นอีกเลย ไปเน้นเรื่องใหม่ๆ มากกว่า ซึ่งมีอีกหลายเรื่องที่กระแสดี แต่ยังไม่ได้เป็นอนิเมะ https://mfbunkoj.jp/
สรุป: โอกาส 50% (แต่อาจนาน ?)
ส่วนตัวค่อนข้างมั่นใจเกือบ 100% ว่าน่าจะมีต่อ การยังมีภาคมูฟวี่ น่าจะตั้งใจรักษากระแสไว้อีกสักระยะ เพื่อตัดสินใจบางอย่างก็เป็นไปได้ แต่จะนานแค่ไหน จะมีการเปลี่ยนแปลงทีมงานหรือสตูดิโอ หรือไม่ ?
เวลามีงานไลท์โนเวลเอ งก็เอา No Game No Life ขึ้นป้ายแทบทุกปี ให้ลุ้นว่าจะได้เป็นอนิเมะ (แต่บางปีก็ไม่มีอะไร ขึ้นไปให้ลุ้น) อย่างในปีล่าสุด Kadokawa Light Novel Expo 2020 ที่จัดในวันที่ 10 เดือน 10 ปี 2020 ก็ยังคงมีภาพตัวละครในแบนเนอร์อยู่ อาจจะมี “ข่าวดี” ช่วงนั้น ซึ่งอาจจะได้เห็นอนิเมะในปี 2021 หรืออาจยาวไปถึง ปี 2022 ซึ่งครบรอบ 10 ปีของภาคนิยายพอดี
Update: เลื่อนจากปัญหาโควิด-19 เลื่อนไปราวๆ มีนาคม 2021 (ขึ้นกับสถานการณ์)
